ลุงวัด ปัญญา รองเจ้าวัดชาวกระเหรี่ยงโปว์รอต้อนรับเราอยู่ที่ไร่สีฟ้า เมื่อรถจอดลง เราเห็นชายวัยปลายหกสิบยืนยิ้มท่าทางดูอารมณ์ดี เขามาในเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมโสร่ง สะพายย่ามผ้าทอ โพกหัวด้วยผ้าสีขาวเช่นกัน แต่ในเวลานั้นเรายังไม่ได้คุยกันมากนักได้แต่แนะนำตัวกันพอประมาณ ก่อนที่เราจะขอให้เขาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของชาวไทยภูเขาที่นี่ให้ฟัง ไม่ว่าจะวิถีชีวิต อาชีพ ประวัติศาสตร์ความเชื่อ
“กระเหรี่ยงโปว์เข้าอยู่ที่นี่นานแล้ว เราจะอยู่ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ ผมก็อยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด อยู่กับป่ากินกับป่านี่แหละ ที่นี่ก็ทำไร่ ไร่ข้าวโพด ทำหลายอย่าง มะเขือ ข้าว ผักชี สารพัด ส่วนใหญ่ก็ปลูกไว้กิน หลักๆ ที่ขายตอนนี้ก็ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชไร่ทั่วไป แต่ข้าวก็จะไม่ขาย เอาไว้กินกันเองในครอบครัว”
ลุงวัดเกริ่นเรื่องราววิถีชีวิต ได้เพียงชั่วครู่ชายคนหนึ่งเดินมาเขาเป็นเจ้าของไร่สีฟ้าแห่งนี้เอง พี่สีฟ้า กรึงไกร
แล็บทดลองทางการเกษตรชื่อว่าไร่สีฟ้า “ที่นี่ใครจะเข้ามาดู จะมาเรียนรู้ก็ได้ เราก็จะแนะนำเท่าที่แนะนำได้ ผลผลิตของเราไม่ได้เจาะจงไปที่ตัวใดตัวหนึ่ง เน้นผสมผสาน เราขายเอง ไม่ได้ขายส่งก็เลยไม่ต้องเน้นจำนวนมาก เราเน้นความหลากหลาย ความแตกต่างและความปลอดภัยครับ” พี่สีฟ้านักทดลองทางการเกษตรพูดถึงไร่ที่เขาฟูมฟักมากว่า 5 ปี
เมื่อเขาพูดแบบนี้ จากภาพที่เห็นเป็นไร่กว้างๆ 32 ไร่ ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่พืชผักธรรมดา กลายเป็นไร่ที่น่าสนใจ พูดคุย และกระตุ้นให้อยากลองไปเดินเก็บผักสดๆ เคี้ยวจากต้น
ลุงวัดและพี่สีฟ้าช่วยกันพาเราเดินไปเยี่ยมชมทำให้รู้ว่าเขาปลูกโดยใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ ยึดหลักพอเพียง แน่นอนว่าไร่สีฟ้ามักถูกผู้คนที่แวะเวียนมาตั้งใจมาดูสตรอว์เบอรี่ แต่ความสนุกของพี่สีฟ้าไม่ได้มีแค่นั้น เพราะเขาเคยปลูกพืชชนิดเดียวแล้วมีข้อเสียบหลายอย่างทั้งด้านราคาที่ตกลง ดินไม่สมดุล เขาจึงเริ่มต้นทดลองปลูกผักที่หลายคนคิดว่าคงหาไม่ได้จากที่นี่
เบบี้แครอต กระเทียมต้น กระหล่ำปม กระหล่ำหัวใจ มะเขือเทศราชินี มะเขือเทศสวีตบอย ต้นหอมญี่ปุ่น แรดิช พืชผักเหล่านี้สามารถหาได้ที่ไร่สีฟ้าแห่งนี้
ไร่อุ๊ยกื๋อ ความยั่งยืนที่เคลือบด้วยวิวระดับเทพ
อีกไร่ที่ลุงวัดพาเราไปเยี่ยมชมคือไร่อุ๊ยกื๋อ ที่นี่เป็นที่ร่ำลือของนักท่องเที่ยวอย่างมากว่าเป็นที่พักสุดสงบ วิวแสนสวย เห็นทะเลหมอกได้ที่หน้าเต็นท์ แต่ภายใต้บรรยากาศที่สวยงามนี้ มีรายละเอียดซุกซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าสำหรับคนในพื้นที่แล้ว ไร่อุ๊ยกื๋อ เป็นไร่ตัวอย่างสำหรับหลายๆ คน
พี่นบ-วันนบ ขอสุข เจ้าของไร่แห่งนี้เป็นคนรื้อไร่ข้าวโพดที่นี่ออกแล้วพยายามทำความเข้าใจการเกษตรใหม่จากที่เคยใช้สารเคมีเพื่อต้องการผลผลิตจำนวนมากก็หยิบเอาโคกหนองหนาโมเดล พร้อมยึดหลักทฤษฏีใหม่ เศรษกิจพอเพียงมาใช้แทน
เขาเริ่มจากการนำซังข้าวโพดมาห่มดินไว้ราว 1 ปี จากดินที่เคยแห้งแล้งก็กลายเป็นดินที่ร่วน สมบูรณ์พร้อมสำหรับการลงเมล็ดพันธุ์ เริ่มวางแผน ออกแบบพื้นที่ ขุดทางน้ำลัดเลาะไปตามแนวไร่ต่าง ๆ ที่ต้องการเพื่อกักเก็บน้ำฝนให้ดินชุ่มน้ำยิ่งขึ้น
จากที่เคยเป็นไร่ข้าวโพดแห้งแล้ง ไร่อุ๊ยกื๋อก็กลายเป็นไร่ที่เต็มไปด้วยพืชผักนาๆ ชนิด เรียกว่าถ้าพูดชื่อผักขึ้นมาแล้ว ที่แห่งนี้จะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งต้นอย่างแน่นอน ยืนยันได้จากการสอบถามพี่นบว่าเขามีพืชผักชนิดใดบ้าง เขาหัวเราะแล้วพูดว่าเขาก็นับไม่ไหวเช่นกัน
นอกจากวิวสวยๆ ที่แก่นมะกรูดจะมอบให้คุณได้แล้ว ลองชิมผักสด กรอบ ปลอดสารพิษของชาวบ้านที่นี่ดูสักครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจเหมือนกับเราว่ามันจะมอบความสุขให้คุณได้ไม่แพ้วิวสวยๆ เลย
สมัครสมาชิก เพื่อรับรู้ข่าวสารทาง Email
กรอก Email ของคุณที่นี่
Copyright © 2020 by OSOTHO ONLINE
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมดสมัครรับข้อมูล ฟรี!