วันนี้จะพาไปเที่ยวจังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก ออกเดินทางโดยรถส่วนตัว ชมวิวธรรมชาติสองข้างทาง และมุ่งหน้าไปยัง จังหวัดนครนายก กันเลย จุดหมายแรก หรือจุดนัดพบของเรา เจอกันที่ ชุมชนบ้านท่าแดง เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาและต้นกำเนินการตั้งถิ่นฐานของชาวพวน ปากพลี และสักการะสถูปหลวงพ่อภาระ และพระศรีอริยเมตไตร
ไทยพวน เดิมเป็นอาณาจักรสำคัญตั้งอยู่ในประเทศลาว เชียงขวางเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรพวน เมืองพวนต้องสู้รบกับอาณาจักรต่างๆ ที่ต้องการขยายอำนาจเรื่อยมา เมื่อปี พ.ศ. 2322 ในสมัยกรุงธนบุรี มีการยกทัพเมืองพวนเป็นเมืองขึ้น ครั้งนั้นทำให้ครอบครัวชาวพวนมายังแผ่นดินสยาม และนี่คือประวัติความเป็นมาของชาวพวนที่มีการตั้งถิ่นฐานในไทยนับตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันชาติพันธ์ุพวนได้กระจายอยู่ในประเทศไทยกว่า 40 จังหวัด ซึ่งการตั้งถิ่นฐานครั้งแรกอยู่ที่บ้านท่าแดงแห่งนี้
หลังทราบประวัติไทยพวนโดยสังเขปแล้ว เราออกเดินเท้าอีกนิดเพื่อไปยังสวนสุขภาพสุริยภรต ชมสวน และรับประทานอาหารว่างที่ทางสวนจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนออกเดินทางต่อไปยังชุมชนบ้านฝั่งคลอง
ถึงชุมชนบ้านฝั่งคลอง มีคณะกลองยาวคอยต้อนรับพร้อมคณะชุมชนแต่งกายพื้นเมืองอย่างสวยงาม เซิ้งกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน เพื่อทำการต้อนรับไปยังพิธีบายศรีสู่ขวัญตามแบบฉบับไทยพวน โดยหมอขวัญจะเป็นผู้ทำพิธี
หลังจากทำพิธีบายศรีสู่ขวัญเรียบร้อยแล้ว เดินชมมิวเซียมปะพวนปากพลี (พิพิธภัณฑ์ชาติไทยพวน) และพิพิธภัณฑ์เฉลิมราชวัดฝั่งคลอง ภายในพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาตำนานรัก “เจ้าจอม นางกลอย โดยภาพการ์ตูนแอนิเมชัน รวมไปถึงการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เครื่องนุ่งห่ม และ อาหารพื้นถิ่นของไทยพวนอีกด้วย
ได้เวลาหิวแล้วววววว กองทัพต้องเดินด้วยท้อง รับประทานอาหารพื้นบ้าน “พาสาย” และชมการแสดงพื้นบ้านไทยพวนอีกด้วย
ถึงเวลาย่อยอาหารกลางวัน เราออกเดินทางกันต่อด้วยรถวิถีถิ่น หรือปั่นจักรยาน ไปชุมชนบ้านใหม่ เพื่อสักการะขอพรสถูปพระบรมสารีริกธาตุกุสาวดี หรือพระธาตุกุสาวดี ณ วัดปทุมวงษาวาส
ปั่นจักรยานออกแรงไม่กี่แคล ขอเติมของหวานเข้าสู่ร่างกายกันหน่อยนะครับ ของว่างต้อนรับของที่นี่คือ ขนมข้าวกระยาคู เป็นขนมไทยโบราณพื้นถิ่นหากินยาก ทำจากข้าวอ่อนที่ยังเป็นน้ำนมอยู่ เปลือกมีสีเขียว หากจะนำมาประกอบอาหารต้องคั้นสด ๆ ทันทีที่ตัดจากต้น น้ำข้าวยาคูมีลักษณะสีเขียวอ่อน ๆ ข้นแบบน้ำนม จะทำกินได้เฉพาะช่วงก่อนฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเท่านั้น
ความอร่อยของ ขนมข้าวกระยาคู นั้นละมุนมาก ๆ กลิ่นหอมจากใบเตยและน้ำนมข้าว ราดน้ำกะทิเล็กน้อย ความหวานของ ขนมข้าวกระยาคูตัดกับน้ำกะทิที่มีความเค็มนิด ๆ ให้รสชาติกลมกล่อม มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งหากินที่ไหนไม่ได้ อร่อยถ้วยเดียวไม่พอแน่นอนครับ
เราออกเดินทางไปยังชุมชนบ้านเกาะหวายด้วยรถวิถีถิ่น เพื่อไปดูวิธีการสาธิตการทำปลาดูสมุนไพรไทยพวน โดย ปลาดูครูหลอด
ปลาดู คือ อาหารพื้นบ้านชาวไทยพวน อำเภอปากพลี ทำจากปลาดุก นำไปหมักด้วยเกลือ ข้าวคั่ว กระเทียม พริกไทย จนมีรสเปรี้ยวและเค็มกลมกล่อม นิยมนำไปทอดหรือย่างก่อนรับประทาน ที่สำคัญวัตถุดิบหลัก ครูหลอดอุดหนุนชาวบ้านในท้องถิ่น และขายในราคาที่ชาวบ้านซื้อรับประทานได้แบบย่อมเยา ขั้นตอนและวิธีการทำไม่ยาก และก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถือเป็นการแปรรูปอาหารที่อร่อยมาก ๆ อีกอย่างหนึ่ง
หลังจากดูการสาธิตวิธีทำปลาดูสมุนไพรและได้ลองลงมือทำแล้ว เราออกเดินทางกันต่อไปยังศูนย์เฮียนฮู้วัฒนธรรมไทยพวน และบ้านโฮมสเตย์
ถึงศูนย์เฮียนฮู้วัฒนธรรมไทยพวน และบ้านโฮมสเตย์ บ้านตัวอย่าง ที่นี่เป็นที่พักรับรอง ผู้มาพักส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มนักศึกษา หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรม หรือมาทำวิจัยในพื้นที่นั้น ๆ
บ้านโฮมสเตย์ จะดูแลผู้ที่เข้าพักเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน บรรยากาศร่มรื่น น่าพักผ่อนมาก ๆ คุณลุงและคุณป้าเจ้าของบ้าน จะดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี หรือทางผู้เข้าพักจะทำอาหารกินเองก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการเรียนการสอนในเรื่องของ ภาษาถิ่น เครื่องแต่งกายแบบไทยพวน ประเพณีพวน ประเพณี ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ (ฮีต ๑๒ คือ จารีตที่ปฏิบัติประจำแต่ละเดือนทั้ง ๑๒ เดือน คอง ๑๔ คือ วัตรปฏิบัติ ๑๔ ข้อ ที่ดีงามในการดำรงชีวิต)
ตกเย็นแล้ว เป็นช่วงเวลาเย็นที่แดดยังคงแรงอยู่ แวะชมบรรยากาศทุ่งนาวิถีข้าวไทยพวน
ก่อนกลับบ้านจบทริปในวันนี้ แวะจิบกาแฟเย็นชื่นใจเพื่อคลายร้อนที่บ้านไทยพวนสถานีท่าแดง ที่นี่เป็นจุดเช็กอินอีกจุดหนึ่งที่ต้องแวะมา บรรยากาศแบบชาวบ้านสบาย ๆ แต่ภายในร้านตกแต่งแบบร่วมสมัยอยู่ ดูกลมกลืนดีครับ
สันติชน กาแฟสด ที่นี่นอกจากจะมีเครื่องดื่มแล้ว ยังมีบริการอาหารคาวหวานอีกด้วย
พักผ่อนคลายร้อนก็ถึงเวลาเดินทางกลับกันแล้ว ทริปนี้อิ่มเอมสุขใจมาก เราแบกความสุขกลับมาเต็มกระเป๋า ชาวบ้านในชุมชนน่ารักถึงแม้จะมีความแตกต่างของวัฒธรรมและภาษา แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้างในเรื่องของอาหาร สิ่งที่เรามีความเหมือนกัน คือรอยยิ้ม แห่งความสุขนั่นเอง
ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวนนครนายก
สมัครสมาชิก เพื่อรับรู้ข่าวสารทาง Email
กรอก Email ของคุณที่นี่
Copyright © 2020 by OSOTHO ONLINE
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมดสมัครรับข้อมูล ฟรี!